สมศักดิ์ ศิษย์ชัชวาลย์ หรือ สมศักดิ์ สิงห์ชัชวาลย์ มีชื่อจริงว่า สมศักดิ์ ต๊ะสิทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2520 ที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เป็นแชมป์โลกมวยสากลรุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท WBA ที่คว้าแชมป์มาครองได้อย่างสะใจคนไทย ด้วยการชนะน็อคแชมป์โลกถึงถิ่นที่ประเทศฝรั่งเศสอย่างดุเดือด แม้จะได้ครองตำแหน่งเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม
ในวัยเด็กสมศักดิ์เป็นเด็กที่เกเรพอสมควร และมีนิสัยส่วนตัวชอบเลี้ยงไก่แจ้ สมศักดิ์เมื่อชกมวยสากลอาชีพ สามารถคว้าแชมป์เงาซูเปอร์ฟลายเวท ของ IBF มาได้เมื่อปลายปี พ.ศ. 2539 ที่ประเทศอินโดนีเซีย แต่ก็ไม่ได้ป้องกันตำแหน่งเลยสักครั้ง จึงสละมาเพื่อชิงแชมป์โลกในรุ่นที่ใหญ่กว่าคือ ซูเปอร์แบนตั้มเวท ของ WBF ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2541 จากนั้นได้ป้องกันตำแหน่งไว้ได้อีก 5 ครั้ง ก่อนที่จะสละตำแหน่งแชมป์ไปในปี พ.ศ. 2544 เพื่อขึ้นชิงแชมป์เฉพาะกาล PABA ในรุ่นเดียวกัน โดยเอาชนะน็อกนักมวยชาวญี่ปุ่น จากนั้นจึงได้เคลื่อนไหวชกอีก 2 ครั้ง ก่อนจะได้ชิงแชมป์จริงโดยชนะน็อกนักมวยชาวอินโดนีเซียไปได้ และสามารถป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ถึง 18 ครั้ง
ต่อมา สมศักดิ์มีอันดับโลกในรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวทของ WBA อันดับที่ 1 จึงได้ขึ้นแชมป์โลกในไฟต์บังคับ กับ มาอิห์ยา มงชิปัวร์ นักมวยชาวฝรั่งเศส ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 ที่กรุงปารีส ถิ่นของเจ้าของตำแหน่งเอง การชกในครั้งนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะทั้งคู่ผลัดกันรุกผลัดกันรับตลอดเวลา ก่อนที่สมศักดิ์จะเป็นฝ่ายเอาชนะที.เค.โอ.ไปได้ในยกที่ 10 อย่างไม่มีใครคาดคิด เพราะก่อนชกบ่อนการพนันถูกกฎหมายที่ฝรั่งเศส ให้ราคาต่อรองแทงหนึ่งจ่ายถึงสี่เท่าหากสมศักดิ์เป็นฝ่ายชนะ ซึ่งต่อมาในปลายปีการชกคู่นี้ทาง WBA ให้ยกย่องให้เป็นไฟต์ดุเดือดที่สุดแห่งปีด้วย และทำให้สมศักดิ์กลายเป็นนักมวยไทยรายแรกที่ได้แชมป์โลกที่ทวีปยุโรป และได้อีกหนึ่งฉายาคือ "นักชกใจเพชร"
แต่เมื่อป้องกันตำแหน่งเพียงครั้งแรก สมศักดิ์ก็เป็นฝ่ายแพ้น็อกเพียงแค่ยก 3 ต่อ เซเลสติโน่ คาบัลเรโล นักมวยชาวปานามาไปในปลายปีเดียวกันอย่างไม่มีใครคาดคิดอีกเช่นกัน
จากนั้นสมศักดิ์จึงชกเคลื่อนไหวอีกหลายครั้ง ทำฟอร์มชนะรวด และต้องมาชกตัดเชือกเพื่อค้นหาผู้ที่จะได้ขึ้นชิงแชมป์โลกในรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท WBA ต่อไป กับ พูนสวัสดิ์ กระทิงแดงยิม นักมวยไทยด้วยกัน เจ้าของอดีตชมป์เฉพาะกาลรุ่นแบนตั้มเวท ของ WBA เมื่อปลายเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ซึ่งมวยคู่นี้เป็นที่สนใจอย่างมากของแฟนมวยชาวไทย และผลปรากฏว่าสมศักดิ์เป็นฝ่ายแพ้ทีเคโอในยกที่ 4 ไป จนในวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553 สมศักดิ์แพ้น็อกยกที่ 4 ต่อ เฟอร์นันโด ออติช นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ที่ที่ว่าการอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี สมศักดิ์จึงประกาศแขวนนวมไปในที่สุด
ชีวิตส่วนตัว สมศักดิ์สมรสแล้ว มีลูกสาว 1 คน และลูกชาย 2 คน ปัจจุบันตั้งรกรากใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหลังแขวนนวมแล้ว สมศักดิ์มีอาชีพเป็นอาจารย์ประจำสถาบันการพลศึกษาเชียงใหม่ โดยสอนมวยไทยและมวยสากล ทั้งสอนมาตั้งแต่ยังชกมวยอยู่ และยังสอนที่ศูนย์กีฬาแห่งความเป็นเลิศ ของสถาบันการพลศึกษาเชียงใหม่อีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังเป็นกรรมการตัดสินมวย เป็นเจ้าของค่ายมวย "ส.สมศักดิ์" ที่ลูกชายทั้ง 2 ก็เป็นนักมวยอยู่ด้วย